“รถโพถ้อง” เอกลักษณ์อันร่วมสมัยของการเดินทางในภูเก็ต

เมืองภูเก็ตได้ก่อร่างสร้างเมืองมานับสมัยกรุงศรีอยุธยาและหากนับรวมถึงหลักฐานทางโบราณคดีที่มีการค้นพบที่บริเวณบ้านกมลา  อ.กะทู้  สันนิษฐานได้ว่าบริเวณนี้มีมนุษย์อาศัยอยู่มาไม่ต่ำกว่า 3,000 ปีแล้ว เวลายาวนานผ่านมากระทั่งถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ที่ภูเก็ตเป็นที่ตั้งถิ่นฐานใหม่ของบรรดาชาวจีนฮกเกี้ยนซึ่งได้ประกอบอาชีพการทำเหมืองแร่ดีบุก จวบจนถึงวันที่นายเหมืองเหล่านั้นมีฐานะเป็นปึกแผ่นมั่นคง การคมนาคมแบบเดิมที่มีทั้งม้าลากเรียกว่า “แบ้เชี้ย” ใช้ควายหรือวัวลากเรียกว่า “หงูเชี้ย” รวมถึงการใช้คนลากรถที่เรียกว่า “หล่างเชี้ย” ก็ถูกแทนที่ด้วยการนั่งรถยนต์ เมื่อเป็นดังนั้นถนนรูปแบบเดิมซึ่งเป็นหลุมเป็นบ่อก็ได้รับการร่วมมือร่วมใจสร้างใหม่จากนายเหมืองชาวจีนโดยมี พระยารัษฎานุประดิษฐ์ สมุหเทศาภิบาลมณฑลภูเก็ตในขณะนั้นเป็นผู้ขอความร่วมมือจากนายหัวเหมืองเอง
“รถลอรี่” คือรถบรรทุกขนาดกลางและขนาดเล็กที่ได้รับการพัฒนาก่อนจะกลายมาเป็น “รถโพถ้องภูเก็ต” ซึ่งได้ขนส่งทางเรือผ่านต่อมาจากปีนัง มีเพียงตัวถังที่เป็นเหล็กและมีล้อให้ขับเคลื่อนที่ได้เอง ส่วนประกอบเหนือตัวถังเหล็กเป็นไม้ปูพื้น มีเสาไม้เป็นโครงขึ้นไปถึงหลังคา ทางขึ้นลงเป็นบันไดอยู่ด้านหลัง ใช้ไม้กระดานแผ่นใหญ่และหนาเป็นที่นั่ง 2 แผ่นขนานไปกับตัวรถ ซึ่งอยู่เหนือล้อหลังไปจรดแนวคนขับ และได้เสริมม้านั่งยาวสูงเท่าที่นั่งถาวรวางไว้กลางรถและใช้พลาสติกผืนใหญ่ม้วนติดข้างรถไว้คลี่ออกกันฝน มีไม้ตกแต่งรถโพถ้อง เหล่านี้ล้วนแสดงให้เห็นถึงความมีอัตลักษ์ของยานพาหนะซึ่งคงอยู่ยาวนานผ่านรุ่นสู่รุ่น โดยรถวิ่งไปตามเส้นทางรอบเกาะ เริ่มตั้งแต่เวลา 6 โมงเช้า ถึง 1 ทุ่ม ท่ารถยู่บริเวณตลาดสดในตัวเมืองภูเก็ต

 

รถโพถ้องภูเก็ต

 

แม้ในปัจจุบันระบบขนส่งมวลชนภูเก็ตได้จัดบริการรถ “สมาร์ทบัส” เริ่มจากสนามบินภูเก็ต-หาดสุรินทร์-หาดกมลา-หาดป่าตอง-หาดกะรน-หาดกะตะ-ราไวย์ ระยะทางกว่า 56 กิโลเมตร โดยภายในรถบัสมีอินเทอร์เน็ตไร้สาย ช่องเสียบยูเอสบีทุกที่นั่ง ระบบ GPS กล้อง CCTV เพื่อตรวจจับรักษาความปลอดภัยของผู้โดยสาร ถือเป็นการคมนาคมใหม่ที่สร้างทางเลือกให้ผู้บริโภค แต่อย่างไรก็ตาม “รถโพถ้อง” ก็ยังคงคุณค่าในฐานะรถโดยสารสาธารณะที่มีเสน่ห์ของการเดินทางรอบเกาะภูเก็ตซึ่งมีทั้งชาวเมืองและนักท่องเที่ยวต่างชาติยืนยันด้วยการใช้บริการอย่างสม่ำเสมอนั่นเอง

 

ข้อมูลอ้างอิง

https://www.thairath.co.th/content/1216710